วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Green Label.

Logo 1.




Logo 2.




Logo 3.


Green Design.

จากการศึกษาและค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับงานออกแบบเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาแล้ว จึงได้คัดเลือกผลงานที่ตนเองชอบและสนใจเป็นพิเศษมานำเสนอ 2 ผลงาน ดังนี้

ENERGY SEED. เมล็ดพันธุ์เพื่อพลังงาน


ถ่ายไฟฉาย ใช้หมดแล้ว ทิ้งที่ไหนดี?
ทั้งถ่านจากรถบังคับลูกคนเล็ก รีโมททีวีห้องนอนของพี่สาว วิทยุทรานซิสเตอร์ฉบับพกพาของคุณยาย ยังมีในที่โกนหนวดและแปรงสีฟันไฟฟ้าของสามีอีก! ถ่านไฟฉายนับสิบๆ ก้อนที่หมดอายุลงในแต่ละเดือน คุณเอามันไปทิ้งที่ไหน? เนื่องจากระบบกำจัดขยะอันตรายของกทม.เรายังไม่เป็นมาตรฐานเท่าไรนัก จริงอยู่...เรามีการรณรงค์ให้แยกขยะ โดยเฉพาะขยะพิษอย่างแบตเตอรี่ หรือถ่านไฟฉายต่างๆ แต่อย่างไรก็ดี เมื่อการรณรงค์ไม่ต่อเนื่อง คนก็ยังนำขณะมีพิษเหล่านี้ทิ้งไปรวมกับขยะเปียกประเภทอื่นๆ ดังนั้นในศูนย์การค้าหลายที่จึงได้จัดกล่องสำหรับทิ้ง "ถ่านไฟฉาย" หรือ "แบตเตอร์รี่สำหรับมือถือ" โดยเฉพาะ แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับในวงกว้างเท่าใดนัก ฉะนั้นคำถามที่เราถามไปตอนแรก จะหาทางออกอย่างไรก็ ต้องมีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ช่วยในการรีไซเคิลแบตเตอรี่เหล่านั้นสิ!!! และแล้วก็มีจริงๆ ด้วย ที่เห็นในภาพคือ โคมไฟที่ใช้ชื่อว่า "เมล็ดพันธุ์เพื่อพลังงาน" มันจะทำงานอย่างไร


นักออกแบบชาวเกาหลี ซัง วู ปาร์ค ได้โชว์ผลงานไอเดีย "กรีนได้ใจ" แบบเด็ดมากฝากชาวโลกอีกแล้วภายใต้ชื่อโปรเจคว่า "เมล็ดพันธุ์เพื่อพลังงาน (Energy Seed)" หรือ ไฟส่องทางได้ใช้พลังงานจากถ่ายไฟฉายทิ้งแล้ว! เพราะหลายต่อหลายครั้งถ่านไฟฉายที่เราใช้เป็นพลังงานในของเล่นไฮเทคต่างๆ รอบๆ ตัว ถึงเวลาที่มันหมด ไม่สามารถให้พลังงานกับอุปกรณ์เหล่านั้นได้ แต่อย่างไรก็ดีพลังงานที่มีอยู่ในถ่านไฟฉายแต่ละก้อนมันไม่ได้ถูกใช้ไปเสียหมดอย่างสิ้นเชิง ยังมีพลังงานเล็กๆ น้อย ๆ หลงเหลือพอสำหรับการสร้างประจุไฟให้กับหลอดไฟได้ นี่เอง ถึงเป็นที่มาของการออกแบบ "เมล็ดพันธุ์เพื่อพลังงาน (Energy Seed)" เพียงคุณใส่ "แบตเตอรี่" หรือ "ถ่านไฟฉาย" ขนาดประมาณ 3A (ที่หมดพลังแล้ว หรือไม่ได้ใช้งานแล้ว) ลงไปในช่องที่ทำไว้เฉพาะ โดยจะเรียงกันเป็นชั้นๆ ซึ่งถ่านไฟฉายเหล่านี้จะกลายเป็นขุมพลังให้กับไฟส่องทางอัจฉริยะนี้โดยอัตโนมัติิ ถือเป็นการรีไซเคิลถ่านไฟฉายได้อย่างชาญฉลาด อีกทั้งยังทำให้ปริมาณขยะพิษลดลงเพราะเรารู้ว่าจะทิ้งมันไว้ที่ไหน ให้เกิดประโยชน์กับเราได้อีกทางหนึ่ง






PAPER BOTTLE. ขวดน้ำกระดาษ


ขวดน้ำกระดาษ
ขวดน้ำเพื่อสิ่งแวดล้อมนี้ คิดค้นโดยบริษัท Brandimage ถือเป็นสุดยอดนวัตกรรมแห่งศตวรรษที่จะสามารถพิชิตปัญหาโลกร้อน การสิ้นเปลืองทรัพยากร และ ขยะล้นโลก เราเคยทราบสถิติอันโหดร้ายที่ "ขวดน้ำพลาสติก" ทิ้งไว้ให้กับโลกใบนี้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอาทิ
* ชาวอเมริกันทิ้งขวดน้ำพลาสติกกันวันละ 60 ล้านขวด
* 80% ของขวดน้ำพลาสติก ไม่ได้นำไปรีไซเคิล
* ต้องใช้เวลากว่า 700 ปีกว่าที่ขวดน้ำพลาสติกจะถูกย่อยสลาย
* 90% ของราคาน้ำดื่มแบบขวด มาจากตัวขวดนั่นเอง เช่นดีไซน์สวย มีลูกเล่นที่ฝา
* ต้องใช้น้ำมันถึง 24 ล้านแกลลอนในการผลิตขวดน้ำพลาสติก 1 พันล้านขวด

และต่อมาก็มีคนผุดไอเดียมากมายที่จะหาของหรือ ภาชนะมาทดแทนการใช้ขวดน้ำพลาสติก หรือพยายามเอาขวดพลาสติกมาทำให้มีค่ามากกว่าเดิม เช่น สร้างบ้านพักชั่วคราวให้กับคนจรจัด แต่ก็ไม่ดีเท่าสิ่งนี้ ขวดน้ำกระดาษนี้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง เพราะวัสดุ 100% ของขวดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และแน่นอนว่าสามารถบรรจุของเหลวทุกประเภทได้เป็นอย่างดี และได้มีการทดลองหลายๆ ครั้งจนมั่นใจว่าสามารถทนทานทั้งความร้อนและเย็นได้ และมีการผลิตในราคาถูก เพื่อจะได้ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วทุกมุมโลก



ปล่อยแสง 3 เด็กฉลาด ชาติเจริญ



นิทรรศการณ์ปล่อยแสง 3 เด็กฉลาด ชาติเจริญ

เทศกาลปล่อยแสง 3 ตอน เด็กฉลาด ชาติเจริญ ณ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ชั้น 6 ดิ เอ็มโพเรียม ช็อป
ปิ้ง คอมเพล็กซ์
เทศกาลปล่อยแสง เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการ "Creative Thailand สร้างเศรษฐกิจไทยด้วยความคิดสร้างสรรค์"
ซึ่งจัดขึ้นตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างเสริมขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศด้วยการมุ่ง
พัฒนาไปสู่ระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ภายใต้สำนักงานบริหาร
และพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) จึงได้จัดงานเทศกาล "ปล่อยแสง: คิด/ทำ/กิน" ขึ้นเพื่อเปิดโอกาสสำหรับ
ทุกคนในการนำเสนอความคิดและผลงานสร้างสรรค์ที่สามารถผลิตเป็นชิ้นงานได้จริง และสร้างบรรยากาศแห่งการ
พบปะ แลกเปลี่ยนระหว่างเจ้าของผลงานและผู้ที่สนใจ อันจะนำไปสู่การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์เพื่อการสร้าง
รายได้ต่อไป

ไอเดียตั้งต้นเทศกาลปล่อยแสง
เทศกาลปล่อยแสงเป็นพื้นที่อิสระที่เปิดสำหรับทุกคนที่มีไอเดียทำมาหากินได้ ให้สามารถเข้ามานำเสนอผลงานของ
ตนเองตามแนวคิดหลัก 3 หัวข้อ
1.การคิด (Inspiration) - why
2.การทำ (Practical process) - how
3.จุดขาย (Attraction) - wow

โดยเป้าหมายหลักของการนำเสนองานก็คือ การนำเสนอผลงานตั้งแต่สาเหตุในการคิดไอเดียตอบโจทย์ พร้อมด้วย
กรรมวิธีหรือกระบวนการผลิตที่ทำได้จริง ก่อนงอกเงยเป็นผลงานสุดว้าว!
เทศกาลปล่อยแสง 3 ตอน เด็กฉลาด ชาติเจริญ
เพราะเด็กในวันนี้ จะเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้า ดังนั้นหากพลังทางความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัดของพวก
เขาได้รับการสนับสนุนให้มีพื้นที่ในการแสดงออกอย่างเต็มที่ อนาคตที่เด็กฉลาดเหล่านี้จะก้าวขึ้นเป็นกำลังสำคัญ
ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติย่อมไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน
ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ขอทำหน้าที่ผู้ใหญ่ใจดี เปิดเวทีสร้างสรรค์ มอบโอกาสให้เด็กรุ่นใหม่ค้นพบ
หนทางสู่การเป็นผู้ใหญ่มืออาชีพใน เทศกาลปล่อยแสง 3 ตอน เด็กฉลาด ชาติเจริญ กิจกรรมเด่นภายใต้โครงการ
"Creative Thailand สร้างเศรษฐกิจไทยด้วยความคิดสร้างสรรค์" ที่จะช่วยให้นิสิตนักศึกษาจากทั่วประเทศได้พัฒนา
ตนเองสู่การเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำได้จากมันสมองและสองมือ พร้อมเปิดโอกาส
ให้เจ้าของธุรกิจได้รู้จักกับนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ไฟแรงจากทุกสาขาวิชา เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ธุรกิจที่แข็งแกร่ง
พร้อมขับเคลื่อนสังคมให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
จากการได้รับมอบหมายให้ไปชมนิทรรศการณ์ปล่อยแสง 3 เด็กฉลาด ชาติเจริญ ที่จัดขึ้นที่ TCDC แล้วเลือกผลงาน
ที่ตนเองชอบมา 3 ผลงาน ดังนี้

ผลงานชิ้นที่ 1

เจ้าของผลงาน : ทัศญา สุรพันธุ์เมธีกร
สถาปัตยกรรมศาสตร์ , สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
Email : typoarty@gmail.com
ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของมือซ้ายของเรา ซึ่งเป็นการกล่าวถึงคนที่ถนัดซ้ายว่าเหตุใดจึง
มีจำนวนที่น้อยกว่าคนที่ถนัดขวา ซึ่งเป็นเรื่องเกๆ ทั่วไป ที่ทุกคนคาดไม่ถึง หรืออาจลืมนึกถึงไปเลยเสียด้วยซ้ำ การ
ใช้ชีวิตของคนที่ถนัดซ้ายนั้นจะดำเนินชีวิตอย่างไรเมื่อสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆนั้นส่วนใหญ่แล้วผลิตมาเพื่ออำนวย
ความสะดวกแก่คนที่ถนัดขวา
เหตุผล : ชอบงานนี้เพราะเป็นการนำเอาเรื่องความรู้สึกของคนที่ถนัดซ้ายท่ดำรงชีวิตอยู่กับคนหมู่มากที่ถนัดขวา
มาสร้างให้เกิดสื่อที่สามารถทำหึคนที่ถนัดขวานั้นเกิดความรู้สึกหรือสามารถรับรู้ความรู้สึกของคนที่ถนัดซ้ายได้

ผลงานชิ้นที่ 2

เจ้าของผลงาน : พชร ปิยะทรงสุทธิ์
จิตกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ , มหาวิทยาลัยศิลปากร
Email : dumgoeng@hotmail.com
ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานที่สร้างสรรค์ศิลปะภาพพิมพ์ ซึ่งเป็นการนำเอาประสบการณ์ส่วนตัวของเจ้าของผลงาน อัน
เกิดจากความสะเทือนใจต่อสถานการณ์ภายในครอบครัว ที่มีทั้งความรัก ความโกรธ ความเกลียดชัง ความรุนแรง
และการสูญเสีย ความรู้สึกเหล่านี้มีผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเขาโดยตรง ผลงานชิ้นนี้จึงแสดงออกในความรู้สึก
ที่สับสนของอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในจิตใจที่มีทั้งปฏิกิริยาที่บอกถึงการโหยหาความรัก ความรู้สึกแตกแยก
โดดเดี่ยวและความสูญเสีย ดังนั้นภาพของบุคคลต่างๆ ภายในครอบครัว จึงเป็นภาพที่ถูกกระทำด้วยอาการต่างๆ ทั้ง
ขูดขีด ลบเลือน และร่องรอยที่เกิดจากการเทราดของหมึกดำ อันเป็นภาษาและลีลาที่ทดแทนความรู้สึกภายในที่ไม่
อาจบอกเล่าด้วยภาษาอื่นๆ ได้
เหตุผล : ที่ชอบผลงานนี้เพราะ สื่อสารผ่านภาพพิมพ์ซึ่งนำเอาความรู้สึกที่มีมาทดแทนด้วยร่องรอยและน้ำหมึก
ต่างๆ ซึ่งเป็นการถ่ายทอดความรู้สึกลงไปในภาพทำให้ภาพต่างๆ จากเดิมที่มีเพียง 2 มิติ ที่ดูนิ่งๆ แต่เจ้าของผลงาน
นั้นสามารถ ใส่ความรู้สึกที่มากมายทำให้ภาพที่ดูเฉยนั้นมีความรู้สึกเข้ามาร่วมด้วยและดิฉันเองเมื่อดูแล้วก็รู้สึกได้
ว่าภาพนั้นได้ถ่ายทอดความรู้สึกเช่นไรออกมา จึงทำให้ดิฉันชอบและประทับใจในผลงานชิ้นนี้ด้วยเช่นกัน

ผลงานชิ้นที่ 3


เจ้าของผลงาน : ยุรพันธ์ มีสุวรรณ
ศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
ผลงานชิ้นนี้เป็นผลงานที่สร้างขึ้นเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมที่น่าสนใจอีกชิ้นนึงที่เดียวเพราะผลงานชิ้นนี้
เป็นการสร้างแผนที่แสดงเส้นทางการเดินรถของรถตู้ในกรุงเทพมหานคร
เหตุผล : ชอบงานชิ้นนี้เพราะก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคมส่วนรวมเป็นอย่างมาก เนื่องจากการเดินทางใน
กรุงเทพมหานครนั้นเป็นปัญหามาก ดิฉันคิดว่าผลงานชิ้นนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากในการที่จะเดินทางไป
ทำธุระ หรือทำงานสำหรับทุกคนได้





วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2552

Hero.



เส้นทางชีวิตของ Vivienne Westwood กว่าจะกลายมาเป็นดีไซเนอร์แถวหน้าของโลกในปัจจุบัน มีความน่าสนใจถึงขนาดที่ว่า กำลังจะมีการสร้างเป็นภาพยนตร์ออกมาให้คนทั่วโลกได้ชมกันแล้ว โดยนักแสดงที่จะมารับบทเป็น Vivienne Westwood ก็คือ Kate Winslet นางเอก Titanic และเจ้าของรางวัลออสการ์นักแสดงนำหญิงคนล่าสุดจากภาพยนตร์ The Reader นั่นเอง

ย้อนกลับไปเมื่อต้นยุค 70 Vivienne Westwood คือผู้จุดกระแสแฟชั่นแนว พังค์ร็อค ให้กลายเป็นแฟชั่นกระแสหลักของอังกฤษ ก่อนที่อีกไม่นานมันจะได้รับความนิยมไปทั่วโลก โดยช่วงต้นยุค 70 "พังค์" ถือเป็นสัญลักษณ์ที่วัยรุ่นอังกฤษในช่วงนั้น ใช้ต่อต้านความคิดของคนยุคเก่า ที่ยึดติดกับระบบชนชั้นของสังคมอังกฤษ โดยสร้างสรรค์ผลงานดนตรีและแฟชั่น ที่มีเนื้อหากบฏต่อสังคม Vivienne มีโอกาสเปิดร้านขายเสื้อผ้าเก่าราคาถูก เอาใจวัยรุ่นที่ชื่นชอบดนตรีและแฟชั่นแนวพังค์ร็อค เธอเป็นผู้เริ่มต้นใช้วัสดุนอกกรอบ ทั้งกระดูกไก่ ยางรถยนต์ หมุด โซ่ ภาพจากนิตยสารเก่า นำมาใช้เป็นส่วนประกอบของเสื้อ ทำเสื้อยืดแนวลามก พิมพ์ลายหน้าอกผู้หญิงและรูปคาวบอยเปลือย ทำกระดุมรูปศิวลึงค์ เฉือนเสื้อผ้าให้ขาดวิ่นเห็นเนื้อหนังบริเวณหน้าอก หรือการนำชุดชั้นในมาใส่ด้านนอก เพื่อสื่อถึงความต้องการอิสรภาพของคนชนชั้นกรรมกร

ปัจจุบัน คุณป้า 'วิเวียน' วัย 68 ปี ยังคงสร้างสรรค์งานฉีกขนบ-วิพากษ์ระบบผ่านงานดีไซน์ เธอไม่ได้ขายแค่เสื้อผ้า แต่สิ่งที่ Vivienne พยายามเสนอขายแก่สังคมก็คือ ทัศนคติ

"งานของฉันคือการประจันหน้ากับสถาบันทางสังคม พยายามค้นหาว่าอิสรภาพของฉันเองอยู่ที่ไหน และทำอย่างไรเพื่อให้ได้มันมา"

ตัวอย่างผลงาน

กบฎ



ชุดราตรี